ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ ได้ติดตามผลกระทบจากการขึ้นค่าไฟฟ้าที่มีต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เห็นชอบให้มีการขึ้นค่าไฟฟ้าในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม การค้า การเกษตร เอสเอ็มอี งวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 66 เป็น 5.69 บาทต่อหน่วย โดยขณะนี้กรมฯ ได้มีการติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิด และยังไม่ให้สินค้าใดมีการขึ้นราคา แต่เบื้องต้นยอมรับว่า การขึ้นค่าไฟฟ้าจะมีผลให้ต้นทุนราคาสินค้าเพิ่มขึ้นบ้าง แต่มีความมากน้อยแตกต่างกันตามชนิดสินค้า เพราะบางรายการมีใช้แรงงานคน ไฟฟ้า พลังงานก๊าซ หรือน้ำมันปาล์มมากน้อยไม่เท่ากันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใด ยื่นขอปรับขึ้นราคาสินค้าจากต้นทุนค่าไฟที่สูงขึ้นเข้ามา จึงขอแจ้งเตือนผู้ประกอบการ หรือร้านค้าห้ามฉวยโอกาสนำเรื่องการขึ้นค่าไฟฟ้า มาเป็นข้ออ้างในการขึ้นราคาสินค้าเด็ดขาด เพราะกรมฯ ยังไม่อนุญาตให้สินค้าใดขึ้นราคาในช่วงนี้ โดยหากเป็นสินค้าที่อยู่ในบัญชีควบคุม ก็ต้องมีการเสนอมาให้กรมฯ พิจารณาก่อน แต่หากไม่อยู่ในบัญชีควบคุม กรมฯ ก็จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิดคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ส่วนกรณีที่ทางภาคเอกชนมีความเห็นว่าการขึ้นค่าไฟจะทำให้สินค้าขึ้นราคาอีก 5-12% เรื่องนี้เป็นตัวเลขที่ภาคเอกชนมีการประเมิน แต่ขณะเดียวกันกรมการค้าภายในก็มีการวิเคราะห์ตัวเลขผลกระทบไว้เช่นกัน ซึ่งเชื่อว่าภาพรวมคงไม่ทำให้ต้นทุนสินค้าปรับขึ้นเท่ากัน เพราะค่าไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนสินค้าเท่านั้น ไม่ใช่ตนทุนทั้งหมด

“การประเมินผลกระทบจากค่าไฟฟ้าต่อต้นทุน กรมฯ จะดู 2 ส่วนหลัก ส่วนแรกเป็นต้นทุนการผลิต เช่น ค่าไฟในการผลิต เช่น ใช้เครื่องจักร การประกอบ การแปรรูปสินค้า ส่วนที่สองค่าไฟ สำหรับใช้ในการบริหารจัดการทั่วไป ซึ่งกรมฯ มีข้อมูลอยู่แล้ว แต่ยังไม่อยากระบุว่า สินค้าใดได้รับผลกระทบน้อย หรือมาก เพราะเกรงจะเป็นการชี้นำตลาด แต่ยืนยันว่า ขณะนี้กรมฯ ได้ติดตามดูแลผลกระทบจากค่าไฟฟ้าอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ประชาชน และผู้ประกอบการได้รับความเป็นธรรมสูงสุด”

By admin