นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดว่า ทางกระทรวงได้จัดเตรียม "แผนการปฏิรูปภาษี" ให้กับรัฐบาลใหม่พิจารณาซึ่งมีอยู่ประมาณ 20 รายการ เพื่อลดรายจ่าย เพื่อให้เกิดความยั่งยืนทางการคลังในระยะยาวมากขึ้น
พร้อมกับเพิ่มรายได้ให้รัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอต่อการจัดทำมาตรการที่เหมาะสม เนื่องจากตัวรายได้จัดเก็บภาษีของรัฐบาล ปัจจุบันคิดเป็นเพียง 14% ของจีดีพี เท่านั้น ซึ่งมาตรฐานที่ควรจะเป็นอยู่ที่ 15-16% ด้วยการให้สิทธิพิเศษ การดูแลเป็นวงกว้างมากเกินไป
หนึ่งในแนวทางที่มีการพูดถึง คือ การตัดงบผู้สูงอายุ ของกลุ่มที่ร่ำรวยอยู่แล้วไม่มีความจำเป็น ปรับไปใช้นโยบายที่พุ่งเป้าช่วยกลุ่มผู้มีรายได้น้อย จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจริงๆ ให้ถูกฝาถูกตัวไม่เหวี่ยงแห ซึ่งจะช่วยลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป แต่แนวทางนี้อาจไม่เป็นที่ยอมรับจากรัฐบาลต่างๆ เนื่องจากกระทบคะแนนเสียงของพรรคการเมือง
หากเราคิดแบบนั้น จะเท่ากับทำอะไรไม่ได้เลย เพราะทุกอย่างย่อมกระทบฐานเสียงหมด แม้แต่การตัดลดการจ้างงานข้าราชการเพียงหนึ่งคน ก็ถือว่า กระทบฐานเสียงพรรคการเมืองแล้ว
กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวคำพูดจาก เว็บสล็อตใหม่ล่า
สำหรับงบประมาณที่ต้องใช้กับเบี้ยผู้สูงอายุเป็นรายเดือนนั้น ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามจำนวนผู้สูงอายุในปัจจุบันใช้งบสูงถึง 90,00 ล้านบาทต่อปี จากเดิมเพียง 50,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งหากตัดการจ่ายให้ผู้สูงอายุที่ร่ำรวยออกไป คาดว่าสามารถลดรายจ่ายงบประมาณได้มากถึงครึ่งหนึ่ง
3 ข้อดี ทำประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย
ได้ภาษีคืนหรือยัง? เปิดช่องทางเช็กเงินภาษีส่วนเกินที่ได้คืน
เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ดูตรงไหน รู้ไว้ก่อนยื่นภาษี
คลัง เสนอรัฐบาลใหม่เดินหน้า รีดภาษีตลาดทุน
นอกจากการหั่นเบี้ยผูัสูงอายุกลุ่มคนรวย ลดรายจ่ายแล้ว ปลัดกระทรวงการคลัง ยังได้ให้ข้อมูลว่าจะเดินหน้าเสนอมาตรการจัดเก็บภาษีการขายหุ้น 0.11% ให้รัฐบาลใหม่ได้พิจารณา ซึ่ง ครม.ชุดเดิมได้ผ่านความเห็นชอบ และได้รับการตรวจจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว
ส่วนจะเดินหน้าเก็บ "กำไรจากการขายหุ้น" หรือไม่เป็นนั้น เป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังได้เตรียมการศึกษาไว้แล้ว ขอใช้เวลาจัดทำข้อมูลให้รอบด้าน และดูแนวทางของรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาก่อน
หั่นทิ้งสารพัดค่าลดหย่อน เพิ่มฐานคนเสียภาษี
อีกหนึ่งสิ่งที่ถูกพูดถึงในแผนการปฎิรูปภาษี คือ การตัดค่าลดหย่อนทางภาษีของกรมสรรพากร จำนวนหลายรายการ เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีค่าลดหย่อนสนับสนุนที่ถูกใช้มานานเกินไป อาทิ ค่าลดหย่อนซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต ค่าลดหย่อนกองทุนฯ ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้าน เมื่อรวมกันแล้วจะพบว่าวงเงินค่าลดหย่อนทางภาษีอยู่ในระดับสูงมาก มีผู้เสียภาษีจริงๆ น้อยมาก
ดังนั้น แนวทางในอนาคตที่กระทรวงการคลังจะเสนอ อาจเป็นการเปิดให้รวบรวมวงเงินค่าลดหย่อนทุกประเภท ทั้งการลงทุน ประกัน ดอกเบี้ยบ้าน รวมเป็นก้อนเดียว แล้วให้ผู้เสียภาษีเลือกใช้ค่าลดหย่อนทางภาษีในรายการที่กำหนด ภายใต้เพดานวงเงินต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนดไว้